ผืนป่าตะวันตก
  ความงดงามที่บริสุทธ์ิแห่งผืนป่าแถบชายแดนของเมืองไทยและพม่า

ไทย English  česky 

 

   

 หน้าหลัก


  สุนทรพจน์ของ
  เอกอัคราชทูต

 
รณรงค์
 การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์
 แกลเลอรี่ภาพ

 บริเวณ
 
เขตป่าสงวน
 
ประวัติศาสตร์ร
 
ภูมิศาสตร์ และภูมิอากาศ
 
พันธ์พืชและสัตว์ป่า

 แหล่งท่องเที่ยวและ
  กิจกรรม

 
สิ่งอำนวยความสะดวก 
 
การเดินทาง
 
ลิงค์

 

เขตอนุรักษ์สัตว์ > อุทยานแห่งชาติลำคลองงู

ชื่ออุทยานแห่งชาตินี้ตั้งขึ้นจากรูปร่างของลำน้ำที่ใหลคดเคี้ยวไปมาแล้วกัดเซาะหน้าผาหินปูนให้เปิดกลายเป็นช่องใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดกลายเป็นถ้ำสวยเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยอย่างที่เห็นในทุกวันนี้


ภูมิศาสตร์และสภาพอากาศ

พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานเป็นเทือกเขาทอดตัวตามแกนเหนือใต้เป็นส่วนหนึ่งในเทือกเขาตะนาวศรี เนื่องจากภูเขาสูงทำให้อากาศร้อนมากในฤดูร้อนและเย็นมาก ในฤดูหนาว ฤดูร้อนเริ่มจากมีนาคมถึงพฤษภาคม และฤดูฝนจากมิถุนายนถึงตุลาคมและในฤดูหนาวเริ่มจากพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ุ ท้องฟ้้าเริ่มมีเมฆจากมิถุนายนถึงกันยายน

พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์


เทือกเขามักปกคลุมไปด้วยป่าผลัดใบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาศัย ความอุดมสมบูรณ์ ของเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร, สัตว์ป่าจึงได้มีความหลากหลาย มีทั้งช้าง, เก้ง, กวางแซมบ้า, หมูป่า, หมีควาย, เสือดาวลายเมฆ, เสือ, ลิงมะคัค, ค่าง, ชะนี


แหล่งท่องเที่ยว


ถ้ำเสาหิน - อยู่ห่างจากปากทางลำคลองงูซึ่งใหลผ่านถ้ำอยู่ ๖ กิโลเมตร ถ้ำเสาหินมีหินงอกบรรจบหินย้อยสวยงามมาก เสาที่สูงที่สุดมีความสูงประมาณ 62.5 เมตรซึ่งถือเป็นเสาที่สูงที่สุดในประเทศไทย และนอกจากนั้นยังมีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลก ๆ ภายในถ้ำซึ่งสามารถเข้าชมได้โดยเรือ นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องลงเรือที่ท่าเรือแพน้ำโจนก่อนจะเดินเท้าเข้าไปอีก ๖ กิโลเมตร (ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง) จากปากน้ำ เส้นทางทางเดินผ่านหุบเขาและหน้าผาสวยงาม
และจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติหรือมัคคุเทศก์ท้องถิ่นเป็นผู้นำทาง เข้าไป เวลาที่เหมาะสมในการเข้าเยี่ยมชมถ้าอยู่ระหว่างกุมภาพันธ์ถึงเมษายนเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ระดับภายในถ้ำกำลังสูงในฤดูฝน

น้ำตกคลิตี้ - ชั้นที่สูงที่สุดของน้ำตกเขาหินปูนที่มีความสูง ๘๐๐ เมตรนี้สูงถึง ๒๐ เมตร บางชั้นมีสระกว้างถึง ๑๕ เมตร

ถ้ำน้ำตก
- มีน้ำตกที่อยู่ภายใต้เขาหินปูน (an underground limestone waterfall?), ตกลงมา ๑๗ ชั้นโดยมีชั้นที่สูงที่สุดอยู่ที่ ๒๐ เมตร มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามและมีภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์รูปมนุษย์และสัตว์กว่า ๓๐ ภาพที่ผนังถ้ำ ตัวถ้ำมีความยาวถึง ๒๗๑๐ เมตร

ถ้ำนกนางแอ่น
- ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของลำคลองงูมีความใหญ่โตกว้างขวาง มีความยาวถึง ๓ กิโลเมตรโดยมีลำคลองงูใหลผ่าน การเกิดถ้ำนกนางแอ่นนี้มีลักษณะทางธรณีวิทยาเรียกว่า หน้าต่างคาสท์ เกิดขึ้นโดยการยุบตัวลงของเพดานทำให้มองเห็นน้ำใต้ดินใหลผ่าน มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก ภายในถ้ำยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยฝูงนกนางแอ่นฝูงใหญ่ การเข้าเยี่ยมชมถ้ำต้องมีการติดต่อล่วงหน้าและมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น

ข้อควรสังเกตุ
- การเยี่ยมชมถ้ำในอุทยานแห่งชาติดลำคลองงูต้องมีการติดต่อล่วงหน้า ทั้งโปรแกรมกิจกรรม, อุปกรณ์จำเป็นในการสำรวจถ้ำและการเตรียมความพร้อมของร่างกาย จำเป็นต้องมีมัคคุเทศก์ ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมเป็นช่วงที่เหมาะสม ที่สุดในการเที่ยวถ้ำเนื่องจากระดับยังสูงอยู่ในฤดูฝน

กิจกรรม


การเดินป่า, ว่ายน้ำ, และชมถ้ำ

สิ่งอำนวยความสะดวก

อาคารสำนักงาน - ที่พัก


ที่พัก

บริเวณตั้งเต้นท์ มีเต้นท์ไว้บริการให้เช่าที่อาคารสำนักงาน

การเดินทาง

โดยรถยนตร์จากทองผาภูมิหรือจากกาญจนบุรี

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่

กรมอุทยานแห่งชาติ - ลำคลองงู - ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว, ที่พัก, การจองที่พักระบบออนไลน์, เครื่องอำนวยความสะดวก, เป็นต้น
แผนที่อุุทยานแห่งชาติ
แผนที่อุุทยานแห่งชาติ
รายละเอียดเพิ่มเติมในการเข้าเยี่ยมชมถ้ำ

 
 
พันธ์พืชป่า ความหลากหลายไร้ขีดจำกัดของเฉดสีและกลิ่น หมอกแห่งจิตวิญญาณ ลมหายใจแห่งดงป่า น้ำตกที่งดงาม แหล่งน้ำของเมืองไทย หนึ่งในแหล่งอยู่อาศัยของสัตว์ป่าผู้ตกเป็นเหยื่อ ความอุดมสมบูรณ์ของชีิวิตแห่งป่า ความเบ่งบานหลากหลายสีสรร แรงบันดาลใจไร้ที่สิ้นสุด

 

โดยกระทรวงต่างประเทศ

โครงการนี้ได้ริเริ่มและได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาลสาธารณรัฐเชก (โดยกระทรวงต่างประเทศ)
และโดยการสนับสนุนของ
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยถูกต้องตามกฎหมาย(DNP), สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย(TEATA), มูลนิธิอนุรักษ์ป่าตะวันตก (FWFCC) และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวกาญจนบุรี(TSK) ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ info[at]westernforest[dot]org
เอื้อเฟ้ือภาพถ่ายและออกแบบเว็บไซต์ โดย เดวิด กูเชรา แปลและเรียบเรียงภาคภาษาไทย โดย กฤศ ธีราทิตยกุล
 

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยถูกต้องตามกฎหมาย